ร้าน ภูริทัตโต พระเครื่อง สายตรงพระสมเด็จหลวงปู่นาค และ พระสมเด็จหลวงปู่หิน วัดระฆัง ที่มีพระสมเด็จ

วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2556

ประวัติหลวงปู่หิน วัดระฆัง หน่อเนื้อสมเด็จโต วัดระฆัง

      ยอดพระเครื่องที่บรรรดานักเลงพระนิยม   คงจะไม่มีอะไรเหนือ  สมเด็จโตวัดระฆัง   แต่เราๆคงไม่มีโอกาสที่จะครอบครองได้   เพราะราคาเป็นล้านและคนที่มีต่างหวงแหน และส่วนมากจะตกเป็นเหยื่อของนักต้มตุ๋นหมดเงินกันไปเยอะ  เพราะเหตุนี้นักนิยมพระเครื่องจึงหันมาหาพระเกจิที่สร้างใหม่    แต่มีผงเก่าสมเด็จโต วัดระฆัง ผสมอยู่ด้วย คนอายุรุ่นประมาณ 50 ปีขึ้น    จึงรู้จักกันแต่หลวงปู่นาค วัดระฆัง และหลวงปู่หิน วัดระฆัง ที่เป็นหน่อเนื้อสมเด็จโต     ที่พระสมเด็จทั้ง 2 ท่าน   จะมีผงเก่าสมเด็จโตผสมมากที่สุดในจำนวนวัดที่สร้างพระสมเด็จด้วยกัน   แต่เนื่องจากประวัติของ 2 ท่านจะหายาก และ พิมพ์พระจะมีจำนวนมาก   ทำให้ลำบากแก่การจดจำ      วงการจึงไม่ค่อยมีผู้สันทัดในการตรวจสอบพระของท่านมากนัก  จึงยากแก่การเล่นหา ผมในฐานะสายตรงที่สะสมพระของทั้ง 2 ท่านไว้มาก    จึงขอนำประวัติท่านทั้ง 2 มาให้ท่านทราบให้มากที่สุด    จึงได้หาข้อมูลจากหนังสือประวัติของหลวงปู่หิน และหลวงปู่นาค จากหลายแห่งเพื่อประมวลมาให้ท่านได้ทราบข้อมูลให้มากที่สุด       เพราะหากประวัติไม่มีการเผยแพร่หลายมากนัก   หรือมีข้อมูลน้อยจะทำให้ท่านเสียโอกาสได้รับพระของทั้ง 2 ท่านไว้ครอบครอง     เนืองจากพระของท่านใช้แทนพระสมเด็จโตได้   เพราะมีมวลสารผงเก่าสมเด็จโตผสมมากกว่าสำนักอื่นใดๆ    พุทธคุณจึงสามารถใช้แทนกันได้ครับ   ผมขอเริ่มประวัติของหลวงปู่หิน วัดระฆังก่อนนะครับ
           
             พระครูสังฆรักษ์ หิน อินทวินโย หรือ หลวงปู่  หิน เรียกตามตำแหน่งฐานานุกรมในพระเดชพระคุณ ท่านเจ้าคุณพระเทพสิทธินายก ( หลวงปู่นาค)ว่า พระครูสังฆรักษ์ หิน  หลวงปู่  หิน เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่รูปหนึ่งของวัดระฆังโฆสิตาราม

หลวงปู่ หิน นามสกุลเดิม สุขเกษม   เกิดเมื่อ 9 เดือนพฤศจิกายน 2442 ตรงกับ วันพฤหัสบดี  ขึ้น 7 ค่ำ  เดือน 12 ปีกุน เวลา ประมาณ 18.30 น. ที่จังหวัด ปริวแวง ประเทศ กัมพูชา บวชเป็น สามเณร 15ปี  ภายหลังได้ลาสิกขาบท มาช่วยโยมมารดาบิดา มาประกอบอาชีพ อยู่พักหนึ่ง      และได้ทำการอุปสมบทใหม่อีกครั้ง อายุ 21 ปี ณ...พัทธสีมา วัดธนาคัน ตำบลจาง อำเภอ ตะแบก จังหวัด ปริวแวง ประเทศกัมพูชา      โดยมีพระรัตนาวงศาเป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์แรม เป็นพระกัมมวาจา และพระมงคลเถระเป็นพระอนุสาวนา จารย์.....หลังจากออกพรรษาแล้ว ท่านได้เดินทางไปศึกษาหาความรู้ในทางไสยศาสตร์..ชั้นแรกคือการเรียน ตรีนิสิงเห       การเรียนลงเลขยันต์...ยันต์ตรีนิสิงเห มีอุปเท่ห์สารพัดซึ่งหลวงปู่ หิน      ใช้ได้ผลมามาก หลวงปู่ หิน ท่านมีความมุ่งมั่นในทางการเรียนวิชาไสยศาสตร์มาก เดินธุดงค์รุกขมูลตามป่าดงดิบ ประเทศพม่า พระตะบอง นครวัด     ได้ร่ำเรียน วิชาการต่างๆมากมาย ฝึกฝนกับพระคณาจารย์ต่างๆ การอบรมเสร็จสิ้น  เมื่อ เดือน 12 พศ..2465 หลวงปู่ หิน     ได้เดินธุดงค์ มาเรื่อยๆ ตามตะเข็บชายแดน ของประเทศไทย มายัง กบินทร์บุรี นครนายก สระบุรี  และได้เดินมานมัสการ พระพุทธบาท สระบุรี จากนั้น  ใช่ว่า มาอยู่ เมืองไทยนะครับ ...ท่านเดินทางกลับไปประเทศพม่า      โดยใช้เส้นทางเดิม กลับวัดธนาคันตามเดิม คือ วัดที่ท่านบวชแต่ครั้งแรก

        ในระหว่างนั้นท่านก็หมั่นปฏิบัตรธรรมกรรมฐาน        จนได้ชื่อว่าเป็น พระที่เชี่ยวชาญทางกรรมฐานท่านหนึ่ง   ทุกครั้งที่ท่านออกพรรษา ท่านจะออกธุดงค์ตลอดไม่ค่อยอยู่วัด    ออกธุดงค์ไปเรื่อยๆ เวียงจันทร์หลวงพระบาง  ย้อนกลับมา เมืองไทย แล้วกลับประเทศพม่า      ...ครั้งหนึ่งหลวงปู่ หินมีความประสงค์จะเดินทางรุกค์ขมูลไปยังประเทศอินเดียให้ได้  แต่แล้วเป็นจุดหักเห ของชีวิตของท่าน      พระเพื่อนที่ร่วมเดินทางของท่านเกิดป่วยกลางป่าลึกในระหว่างทาง   จึงได้เดินทางมาที่เมืองไทยทำการรักษาตัว      ในที่สุดพระรูปนี้ มรณภาพลงที่ จังหวัด  ตาก ...ในเวลานั้น ใกล้เวลาจะเข้าพรรษาหลวงปู่ หิน จำต้องจำพรรษาที่  จังหวัด  ตาก 1 พรรษา

         หลังจากนั้น หลวงปู่ ก็เดินธุดงค์ ต่อไป ที่ จังหวัด เชียงใหม่ เลยเข้าไป ประเทศ  พม่า และต่อมาท่านเดินทางมาที่   จังหวัด สุโขทัย พักอยุ่ ที่ วัดพุทธปรางค์   อำเภอ  สวรรคโลก 2  เดือน และออกธุดงค์มาเรื่อย      จนถึง จังหวัด  พระนครศรีอยุธยา ได้พบกับพระอุปัชฌาย์  เทพ  ซึ่ง  เป็นพระเพื่อนมาแต่เดิม เป็นเจ้าอาวาส อยู่ วัดทางหลวง ตำบล ปลายกลัด อำเภอบางซ้าย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา       ท่านจึงพำนักที่นั้น และช่วยดำเนินการสร้างเสนาสนะสงฆ์ ตลอดจนวิหารและศาลาฟังธรรมต่างๆ จนลุล่วง ท่านได้อยู่วัดทางหลวงเป็นเวลา  11 พรรษา  อยุธยา นั้น ไม่สิ้นคนดี เป็นคำพังเพย โบราณ ที่เราคุ้นๆหูกันอยู่นะครับ หลวงปู่ หิน ได้ร่ำเรียนไสยศาสตร์แถบนี้มาก  ต่อมาก     แม้กระทั่งหลวงพ่อ จง แห่งวัดหน้าต่างนอก...  หลวงพ่อ ต่วน วัด กล้วย ซึ่งต่อมาเป็นพระสหายทางสมิกธรรม  ฯลฯ  ประวัติการร่ำเรียนวิชาทาง  ไสยศาสตร์ของท่าน ว่าร่ำเรียนกับพระอาจารย์ท่านใดนั้นมิอาจบรรยายได้  เพราะ หลวงปู่  หิน ท่านออกธุดงค์ เพียงรูปเดียวในระยะหลัง

         ต่อมาใน  พศ....2478 ท่านได้ทราบถึง  กิติศัพท์ ของท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์  โต พรหมรังสี     เกิดมีความศรัทธาอย่างแรงกล้า        จึงตัดสินใจเดินทางมายัง  วัดระฆังโฆสิตาราม และเข้ากราบนมัสการ    พระเทพสิทธินายก หรือ หลวงปู่  นาค ขณะนั้น  หลวงปู่  นาค  ดำรงตำแหน่ง พระราชโมฬี  เจ้าอาวาส แห่งวัดระฆัง       สนทนาธรรมเป็นที่ถูก  อัธยาศัย ยิ่งนัก ....หลวงปู่ นาค จึงได้ชักชวนให้อยู่จำพรรษา อยู่  วัดระฆัง เสียที่นี่   คณะ3 ซึ่งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ของวัด         ปัจจุบันเป็นโรงเรียนโฆสิตสโมสร ในสมัยนั้นทางสำนัก วัดระฆังได้เปิดอบรม  กัมมัฎฐานและวิปัสสนา หลวงปู่ นาค ก็ได้แต่งตั้ง หลวงปุ่  หิน มีหน้าที่ช่วยเหลือในกิจของสงฆ์ทางวัด ตลอดมา      ไม่ว่าพัฒนางานก่อสร้างทำนุบำรุงต่างๆ  สมัยนั้นมีแต่แรงงานพระในผ้าเหลืองล้วน      หลวงปู่ หิน เป็นช่างควบคุมเองทั้งหมด ไม่ว่า      ครั้งใด  คำปฏิเสธนั้น ไม่เคย หลุดจากปากท่านเลย กับการก่อสร้างวัดวาอารามต่างๆหลายวัด   แม้ในบางครั้งท่านได้ไม่มีเงินพอที่จะช่วย   ท่านก็นำพระผงของท่าน มามอบให้ประชาชนได้บูชากัน   เพื่อนำเงินไปใช้ในการก่อสร้าง นั้นๆ เป็นเจตนาที่บริสุทธิ์โดยแท้

        การสร้างพระผงต่างๆ   ของหลวงปู่ หิน แห่งวัดระฆังนั้น     ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น หลวงปู่ นั้นมีความศรัทธา ต่อ สมเด็จพระพุฒาจารย์  โต มากๆ   หลวงปู่ท่านพยายามเสาะแสวงหา   พระสมเด็จมาสะสมไว้ ทั้งที่  แตกหักและชำรุด จนมีจำนวนมากพอแก่ความต้องการ       ท่านจึงนำมาโขลกเป็นผง  นอกจากนี้แล้ว ท่านยังได้รับผงพระปิลันทร์จากกรุ มุมพระอุโบสถ  ด้านทิศใต้ .....ผงจากกรุ  วัดสามปลื้ม ผงสุริบาตร และผงตรีนิสิงเห ที่ขาดมิได้   ...... การสร้างพระพิมพ์ของหลวงปู่ นั้น เริ่มตั้งแต่  พศ...2482-พศ..2521 มีจำนวน 10  รุ่นด้วยกัน   อาจารย์   ขวัญ  วิสิฎโฐ ( คุ้มประยูร) เป็นผู้ช่วยเหลือโดยใกล้ชิด     พระเครื่องที่สร้างแบ่งตาม  พศ. พอจำแนก.ได้ ดังนี้
1...พระสมเด็จ รุ่นแรก พศ..2482 มี5พิมพ์   เมื่อสร้างเสร็จแล้ว ท่านก็ได้แจกให้ศิษย์   และทหารตำรวจ  นำไปบูชากัน

เป็์นจำนวนมาก  โดยเฉพาะทหาร ที่ส่งไปออกรบ  ต่างเจอประสพการณ์มากมาย  จึงเรียกรุ่นนี้ว่า   พระสมเด็จ รุ่นอินโดจีน

      1.1พิมพ์อกครุฑ
      1.2พิมพ์แหวกม่าน
      1.3พิมพ์เส้นด้าย
      1.4พิมพ์ทรงเจดีย์
      1.5พิมพ์ทรงเจดีย์พิมพ์เล็ก

2....พระสมเด็จรุ่น 2 พศ..2484มี 5 พิมพ์   พระรุ่นนี้ของหลวงปู่หิน  สร้างพระโดยใช้ผงพระสมเด็จ  ผงจากกรุวัด

ระฆัง  ผงจากกรุวัดสามปลื้ม ผงสุริยาตร ผงตรีนิสิงเห  และผงมหาราช

      2.1พิมพ์ทรงพระประธาน
      2.2พิมพ์ทรงพระเกศทะลุซุ้ม
      2.3พิมพ์ทรงชายจีวร
      2.4พิมพ์อกครุฑเศียรบาตร
      2.5พิมพ์ทรงอกร่องหูยานคู่

3...พระสมเด็จ รุ่น 3 พศ..2488 มีเพียง  2 พิมพ์   พระรุ่นนี้ท่านได้ผสมผงสมเด็จ ผงพระปิลันทร์  ผงกรุวัดสามปลื้ม

ผงสุริยาตรอ  ผงมหาราช ผงตรีนิสิงเห พระรุ่นนี้มีแค่ 2 พิมพ์ คือ

      3.1พิมพ์ทรงนิยม
      3.2พิมพ์ทรงเจดีย์

4...พระสมเด็จรุ่นที่ 4 พศ..2494  ติดต่อถึงปี  95 จึงเรียกว่า  รุ่น  2495  ต่อมาในปี 2494   ทางวัดได้รื้อหอไตรออกมา    ปรากฎว่าพระไตรปิฏกใบลานเก่าได้ชำรุดมาก  จึงได้สร้างขึ้นใหม่     และนำของเก่ามาเผามาผสมกับผงต่างๆที่มีอยู่ เช่น  ผงสมเด็จแตกหัก  ผงเก่าสมเด็จโตที่ได้สร้างไว้ที่เก็บไว้ยังไม่ได้สร้างพระที่อยู่ในวิหาร       ผลพระปิลันทร์  ผงสุริยาตร  ผงพระกรุวัดสามปลื้ม   ผงตรีนิสิงเห   มาผสมกันสร้างพระ   และบางส่วนก็ไม่ได้ผสมผงใบลานที่เป็นเนื้อผงขาว   พระสมเด็์จบางพิมพ์จึงมีเนื้อดำ  และเนื่้อขาว     เป็นที่นิยมของศิษย์และประชาชนทั้วไป  เพราะผู้บูชา
ไปแล้วมีประสพการณ์มากมาย  พระรุ่นนี้มรจำนวน 6 พิมพ์ด้วยกันคือ

      4.1พิมพ์ทรงพระประธาน พิมพ์นี้มี 2ชนิด คือ  เนือ้ผงและเนื้อผงใบลาน
      4.2พิมพ์พระประธานขาโต๊ะ
      4.3พิมพ์ทรงเจดีย์
      4.4พิมพ์สามเหลี่ยมด้านเท่า
      4.5พิมพ์สามเหลี่ยมหน้าจั่ว
      4.6พิมพ์สามเหลี่ยมหน้าจั่วพิมพ์เล็ก

5... พระสมเด็จรุ่น 5 ปี 2497 มีเพียง 2 พิมพ์ พระรุ่นนี้ยังเหลือผงสมเด็จอยู่อีกจำนวนนึ่ง  จึงนำมาผสมกับผงพุทธคุณอีกมากมาย แต่สร้างแค่ 2 พิมพ์ คือ

      5.1พิมพ์ทรงเจดีย์
      5.2พิมพ์เจดีย์ทะลุซุ้ม

6...พระสมเด็จรุ่นที่ 6 พศ..2500  เนื่องจากปีนี้เป็นปีกึ่งพุทธกาล 2500 ปี หลวงปู่จึงสร้างจำนวนมาก ประมาณ

84000 องค์ เพื่อเพียงพอแก่การแจกจ่าย และได้นำเข้าพิธี 25 ศตวรรษ  เพื่อให้มีความศักดิ์สิทธิ์ขึ้น เนื่องจากหลวงปู่

ได้รับเชิญร่วมปลุกเสกในพิธีด้วย  พระพิมพ์จึงค่อนข้างสวยงาม และมีประสพการณ์มากเช่นกัน พระมีทั้งหมด 15 พิมพ์คือ


      6.1พิมพ์พระประธาน ขนาดบูชา
      6.2พิมพ์ปรกโพธิ์พิมพ์ใหญ่
      6.3พิมพ์ทรงนาคปรก
      6.4พิมพ์ปรกโพธิ์ฐานแซม
      6.5พิมพ์ทรงอกครุฑเศียรบาตร
      6.6พิมพ์ฐานหมอน
      6.7พิมพ์ทรงนิยม
      6.8พิมพ์ทรงเจดีย์ 
      6.9พิมพ์ทรงนิยมพิมพ์กลาง
      6.10พิมพ์ทรงนิยม  พิมพ์เล็ก
      6.11พิมพ์คะแนนปรกโพธิ์
      6.12พิมพ์คะแนนพระประธาน
      6.13พิมพ์ทรงสามเหลี่ยมหน้าจั่ว
      6.14พิมพ์คะแนนทรงพระประธานขนาดเล็ก
      6.15พิมพ์ทรงเม็ดแตง

7...พระสมเด็จ รุ่นที่ 7 พศ...2512  เรียกว่า รุ่น เสาร์5 มี6 พิมพ์  สร้่างในวันเสาร์ 5 (วันเสาร์ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ) ซึ่งทางไสยศาสตร์ ถือกันว่าสร้างในวันนี้แล้วขลังมาก   นอกจากนี้ท่านยังได้เอาเสากุฎิของสมเด็จโต  มาสร้างเป็นพระเนื้อไม้อีกด้วย  พระชุดนี้จึงจำนวน 6 พิมพ์ดังนี้


      7.1พิมพ์นิยมเสาเอก สร้างด้วยไม้   ทำจากเสากุฎิ  สมเด็จโต
      7.2พิมพ์ทรงจุฬามณี
      7.3พิมพ์สังฆาฎิ
      7.4พิมพ์ทรงอกร่องหูยานฐานแซม
      7.5พิมพ์กลีบบัว
      7.6พิมพ์ทรงพระประธาน  หูบายศรี

8...พระ สมเด้จ  รุ่นที่ 8  รุ่นสุดท้าย พศ..2515 เรียกว่ารุ่น100 ปี การมรณภาพ สมเด็จพระพุฒาจารย์  โต พิธีมหาพุทธาภิเศก  หลวงปู่หิน สร้าง2พิมพ์เข้าพิธีด้วย มี  2พิมพ์      หลวงปู่หินได้ืำการบูรณบ่อน้ำมนต์ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จโต      เพราะมีอายุกว่า 100 ปี ชำรุดทรุดโทรมมาาก    หลวงปู่จึงขุดให้ลึกกว่าเดิม  ปรากฏว่าเจอแผ่นยันต์ฺ  ลักษณะเป็นปูนปั้น  มีขนาด 17 นิ้ว  ยาว  21 นิ้ว  จมอยู่ในบ่อ  สัณนิฐานว่าเป็น   แผ่นยันต์ของสมเด็จโตที่สร้างไว้    หลวงปู่จึงนำมาเก็บไว้  แล้วเทคอนกรีตรอบบ่อตามเดิม      ต่อมาภายหลังเมื่อบูรณเสร็จ     ท่านจึงนำแผ่นยันต์ลงไปไว้ในบ่อตามเดิม เพื่อเป็นสิริมงคล      แม้กระทั่งพระ และสามเณรที่ลาสิกขาก็นิยมใช้น้ำในบ่อไปประกอบพิธีกรรมกันอยู่เสมอ       ท่านจึงได้สร้างพระพิมพ์ขึ้นมาร่วมพิธีสมเด็จ 100 ปี ในปี 2515 ด้วย  เพื่อนำเงินมาบูรณะบ่อน้ำมนต์ดังกล่าว  พระที่สร้าง มีทั้งหมด 2 พิมพ์ด้วยกันคือ

     8.1พิมพ์ทรงนิยม
     8.2พิมพ์ทรงอกครุฑเศียรบาตร
     8.3เหรียญ รุ่นแรก พศ.2516

9...พระกริ่งรูปเหมือนปี 2518

10.เหรียญหลวงปู่หิน ปี 2521

      นอกจากนี้ยังมีพระนอกพิมพ์อีกจำนวนหลายพิมพ์เช่นกัน      เรียกว่า  พิมพ์นอก เป็นพระที่สร้างในปีเดียวกัน  แต่ไม่ได้ออกเป็นทางการ      ท่านจะแจกเป็นการส่วนตัวแต่พิมพ์ทรงจะแตกต่างกันออกไปไม่เหมือนกับพิมพ์ที่ วัด

ท่านพระครูสังฆรักษ์  หิน อุปสมบทพระ   เมื่อวันที่ 30  พฤษภาคม พศ...2463พรรษาแห่งการบวช ท่านศีกษาทางกรรมฐานจนแตกฉาน      จนเกิดความชำนาญ ต่อมาศึกษาทางด้านคาถาอาคม จนเกิดความแตกฉาน วิชาไสยศาสตร์ ชนิดหาตัวจับยาก ภายหลังค้นคว้าแพทย์แผนโบราณ       รักษาผู้คนตกทุกข์ได้ยาก เป็นพันๆคนในขณะนั้น ท่านย้ายมาอยู่ วัดระฆัง  พศ...2478 ?พศ..2521 ตลอดระยะเวลา 43ปี    ภายหลังหลวงปู่ หิน ป่วย ท่านได้ย้ายมาอยู่ที่ วัดกล้วย จ...อยุธยา เพื่อทำการรักษาตัวเพราะไม่มีเวลาพักผ่อน และท่านมีเวลาไม่นานแล้ว      ประกอบกับมีเนื้องอกที่ กระพุ้งแก้มเพราะ  เกิดจาการฉันท์หมากมาก   ในปีเดียวกันนั้นเอง  (พศ..2521)     ท่านเดินทางกลับวัดระฆัง 19พฤษภาคม 2521   ...........มรณภาพ21 พฤษภาคม2521 รวมอายุ 79ปี 58 พรรษา  @@@ขอขอบคุณข้อมูลนี้จากหนังสือประวัติ  หลวงปู่หิน จากวัด พระศรีสุทธิโสภณ (เที่ยง อัคคธัมโม  ปธ..9) 3ตค..2521 ซึ่งเป็นผู้เรียบเรียง ประวัติ  หลวงปู่ หิน ที่ออกมาจากวัดระฆัง     ..หนังสือเล่มนี้ทำแจกแก่ศิษย์ยานุศิษย์ที่มางานฌาปนกิจ หลวงปู่ หิน วัดระฆัง ซึ่งอาจจะลงรายละเอียดได้ไม่หมด      เพราะบางส่วนที่ท่านสร้างได้นำพระที่่านสร้างบางส่วนไปลงกรุ เช่นพิมพ์สังกัจจายฐานผ้าทิพย์      และที่วัดบ้านเกิดของท่านอีกบางส่วนทางวัดไม่ได้ลงไว้ครับ .
 
      มวลสารจัดสร้างพระสมเด็จ
    
หลวง ปู่หิน ท่านได้เริ่มจัดสร้างพระสมเด็จในครั้งแรก ในปี 2482    ซึ่งในปีแรกๆที่ท่านได้มาจำพรรษาที่วัดระฆัง  ท่านได้สะสมพระแตกหักที่ชาวบ้านได้มาแล้วนำมาถวาย    และพระแตกหักที่ชาวบ้านทำหักแล้วไม่ได้เก็บไว้บูชา     มาไว้ที่ต้นไม้เป็นจำนวนมากท่านก็สะสมไว้    ประกอบกับที่พระเจดียฺ์
อุ โบสถ้ได้พังทลายลงมา  ปรากฏว่าเจอพระสมเด็จปิลันทร์จำนวนมากได้แตกกรุออกมา      ท่านจึงเก็บไว้จำนวนมาก    และอีกประการหนึ่งท่านสนิมสนมกับพระอาจารย์ขวัญ     ซึ่งได้บวชที่วัดระฆังมานตั้งแต่ยังเป็นเณร    ซึ่งโยมแม่ของอาจารย์ขวัญอยู่ในยุคของสมเด็จโต    และมักจะนำภัตตาหารคาวหวานมาถวายแด่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จโตเป็นประจำเพราะ ความเลื่อมใส   ซึงมาถวายสมเด็จโตครั้งใด ก็จะได้รับพระสมเด็จโตกลับไปทุกครั้ง   จนทางบ้านของอาจารย์ขวัญมีสมเด็จเต็มพานใหญ่กะประมาณเป็๋นร้อยองค์     เมื่อโยมแม่อาจารย์ขวัญถึงแกกรรรมลง    ท่านจึงมอบพระสมเด็จให้แก่หลวงปู่หินมาเพื่อสร้างพระเครื่อง    และอีกส่วนหนึ่งอาจารย์ขวัญได้ไปขอผงสมเด็จจากมหาเลี่ยมซึ่งเป็นผู้รักษากุฎิสมเด็จโต  จึงได้ผงสมเด็จมาอีกจำนวนหนึ่งจึงมอบให้หลวงปู่หิน  นอกจากผงสมเด็จโตและพระปิืลันทร์แล้ว    ยังได้ผสมผงพระสามปลื้มที่ตอนเปิดกรุได้นำมาผสมลงไปพร้อมกับ     ผงที่หลวงปู่หินได้ทำผงเขียนและลบผงสุดยอดเมตตาผงสุริยาตร ตำรับเขมร    และผงตรีนิสิงเหที่ท่านเชี่ยวชาญมาผสมในพระสมเด็จของท่าน     (ผงตรีนิสิงเหเป็นผงที่หลวงปู่โต๊ะสำเร็จเหมือนกัน   ท่านก็ได้นำมาสร้างพระปิดตาของท่านเมตตาจึงสุดยอด).

     ประสพการณ์พระของหลวงปู่หิน

ตั้งแต่ พระรุ่นแรก ที่สร้างในปี 2482 พระได้ออกแจกจ่ายให้บรรดาศิษย์  ตลอดจน ทหาร ตำรวจ ได้นำไปบูชาจำนวนมาก  โดยเฉพาะัอย่างยิ่งบรรดาทหารจะไปรบในสงครามอินโดจีน      ต่างก็มาขอรับแจกจากท่าน ปรากฏว่าได้รับแคล้วคลาดและคงกระพันกลับมา   จึงประจักษ์ในพุทธคุณในพระของหลวงปู่หิน   จึงเรียกพระรุ่นนี้ว่า  พระสมเด็จรุ่นอินโดจีน
แม้ แต่คนสิงคโปร์  และมาเลเซีย ก็เจอประสพการณ์มาเยอะมาก   จึงนิยมพระของท่านไม่แพ้คนไทยเหมือนกัน  แต่ราคาแพงกว่าที่ประเทศไทยหลายเท่าตัว .

       ลักษณะและเนื้อหาของสมเด็จหลวงปู่หิน


พระ รุ่นแรกอายุประมาณ 70 ปี สร้างเวลาใกล้เคียงกับหลวงปู่นาค ปี 84 แต่หลวงปู่หิน สร้างในปี 2482 เป็นจำนวนมาก  เพราะท่านทำผงไว้ได้ประมาณ 5-6 กระถางมังกร    ได้พระประมาณหลายหมื่นองค์ และหลวงปู่หิน ได้มอบผงบางส่วนให้หลวงปู่นาค ไว้สร้างพระด้วย       พระสมเด็จของหลวงปู่หินจะแก่ปูน    บางองค์จะเนื้อออกคล้ายฟองเต้าหู้คล้ายผิวของพระกรุบางขุนพรหมในองค์ที่ลง กรุ      หรือองค์ที่ท่านแช่น้ำมนต์หรือ    บางครั้งท่านสรงน้ำท่านจะเสกน้ำมนต์ แล้วรดราดใส่กองพระที่วางกองไว้ใต้ต้นไม้ที่อยู่หลังกุฎิพระแล้วใช้ใบไม้ แห้งมาปิดทับไว้       ตามแบบพระเกจิอาจารย์รุ่นก่อนๆ       เนื้อบางองค์จึงใกล้เคียงกับพระกรุบางขุนพรหม    ส่วนพระของหลวงปู่นาคจะผสมมวลสารของท่านเพิ่มและน้ำมันและกล้วย       พระของหลวงปู่นาคจึงคล้ายพระสมเด็จโตมากในองค์ที่ผสมผงเยอะครับ     ส่วนของหลวงปู่หินจะแกร่งปูน บางองค์มีฟองเต้าหู้    จะคล้ายพระกรุบางขุนพรหมครับ (ข้อมูลเพิ่มเติมจากหนังสือพระรุ่นเก่าปี 17 )  ทีผมหามาเพิ่มเติมได้โดยที่อื่นไม่มีครับ.

สรุปประวัติพระสมเด็จหลวงปู่หิน วัดระฆัง

      พระสมเด็จหลวงปู่หิน วัดระฆัง  มีพุทธคุณสูงส่งมากทาง  ด้านเมตตามหานิยม  และแคล้วคลาด   แม้แต่ทางด้านคงกระพันก็มีเจอ
มาหลายรายเช่นกัน    นอกจากนี้พระสมเด็จของท่าน   ยังใช้อารธนา
ทำน้ำมนต์ได้ศักดิ์สิทธิ์เป็นยิ่งนัก    ใช้รักษาทางโรคคุณไสย  หรือ ภูตผีปีศาจเข้าสิงได้เหมือนท่านรดน้ำมนต์เอง    ชื่อเสียงทางด้านน้ำมนต์ของดังมาก    วันๆมีคนมาให้ท่านรดน้ำมนต์มากมาย    ในสมัย
สงคราม โลกครั้งที่ 2   พระสมเด็จหลวงปู่หินก็ปรากฏชื่อเสียงเป็นทืี่รู้จักกันแพร่หลายอย่างมาก    ซึ่งพระสมเด็จของท่านก็ใช่ว่าจะรู้จักแต่คนไทยสมัยเก่าเท่านั้น    แม้แต่คนต่างประเทศ เช่น สิงค์โปร์ หรือฮ่องกง  หรือ ประเทศมาเลยเซีย   หรืออินโดนีเซีย  เขาก็รู้จักและนิยม พระของหลวงปู่ท่านมานานแล้ว   ปัจจุบันพระของหลวงปู่ท่านยังพอหาได้ตามสนามอยู่บ้าง   แต่หายากขึ้นเรื่อยๆ  จึงมีของปลอมออกมาเกลื่อนตลาด เรียกว่าของเก๊มากกว่าของจริงซะด้วย  จึงต้องใช้ความระมัดระวังในการเช่าหา  ทั้งนี้ก็เพราะว่าพระของ ท่านมีเก๊มานานแล้ว  จนเซียนบางคนยังไม่เคยเห็นพระของจริงซะด้วยไป และเนื่องจากพิมพ์พระของท่านมีมากมายเป็นหลายสิบพิมพ์   จึงต้องเช่าหาจากสายตรง   หรือผู้ท่านเชื่อถือเป็นหลักจะได้ไม่โดนของปลอมครับ  ในเวปนี้ผมพยายามบอกรายละเอียด   ให้ท่านได้ทราบให้มากที่สุด  ไว้ศึกษาเวลาเจอที่ไหนจะได้มีข้อมูลประกอบการพิจารณาครับ  จึงหวังว่าข้อมูลที่ผมให้ไว้จะทำให้ท่านเช่าพระของหลวงปู่ได้ไม่พลาดง่ายๆ ครับ   ด้วยใจจริงจากสายตรงของหลวงปู่  โทร 085-0727759 และ 082-4580009  พงศ์พนัส  อานนท์วรกุล (มอส) ครับ.

เอกสารที่ใช้ประกอบการให้ข้อมูล ขอขอบคุณอย่างสูงครับ

หนังสือเซียนพระ

หนัสือมหาโพธิ์

หนังสือคเณพร

หนังสือแจกงานศพของหลวงปู่หิน ที่เจ้าคุณเที่ยง เจ้าอาวาส องค์ปัจจุบันเขียน



ผู้รวบรวมเอกสาร   ภูริทัตโต พระเครื่อง โทร 093-9969954 และ
098-5422546  ID LINE . masteramulet และ  id.mos 

สงวนลิขสิทธิ์ ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อ หากไม่ได้รับอนุญาตฺ








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น